การพัฒนา ของ แอร์บัส เอ319

ภูมิหลัง

รุ่นแรกของเครื่องบินตระกูลเอ320 ก็คือแอร์บัส เอ320 ซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1984 และบินครั้งแรกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987[3] ต่อมาได้มีการขยายลำตัวของเอ320 เพื่อให้สามารถจุผู้โดยสารได้มากขึ้น จึงมีการสร้างแอร์บัส เอ321 (ส่งมอบครั้งแรกในปี 1994) และลดขนาดลำตัวของเอ320 เป็นแอร์บัส เอ319 (1996) และย่อลงอีกเป็นแอร์บัส เอ318 (2003) เครื่องบินตระกูลเอ320 จะใช้ระบบการบินแบบฟลาย-บาย-ไวร์ และใช้การควบคุมผ่านแท่นควบคุม อ้างอิงจากเดอะนิวยอร์กไทม์ส แอร์บัสได้พัฒนาเอ319 ตามคำขอของ Steven Udvar-Hazy อดีตประธานและซีอีโอของไอแอลเอฟซี[4]

จุดเริ่มต้นและลักษณะ

แอร์บัส เอ319 มีลักษณะคล้ายกับเอ320 โดยมีการลดความยาวของลำตัวเครื่องลง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเครื่องบินเอเอ1 ขนาด 130 ถึง 140 ที่นั่ง ที่เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิจัยอากาศยานลำตัวแคบของแอร์บัส[5] โครงการเอสเอ1 ถูกพับไปหลังแอร์บัสมุ่งความสนใจไปที่เครื่องบินขนาดใหญ่กว่าแทน แอร์บัสก็มุ่งความสนใจไปที่โครงการเอ320เอ็ม-7 อีกครั้ง หลังจากที่ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการจำหน่ายเอ320 และเอ321 โดยเป็นโครงการที่จะลดขนาดลำตัวของเอ320 เดิมไปเจ็ดเฟรม[6] และจะทำให้เกิดการแข่งขันโดยตรงสำหรับโบอิง 737-300/-700[5] โดยจะนำโครงสร้างเครื่องบินด้านหน้าปีกออกสี่เฟรม และด้านหลังปีกอีกสามเฟรม จนมีความยาวเหลือเพียง 3.73 เมตร (12 ฟุต 3 นิ้ว)[7][8] นอกจากนี้แล้วยังมีการลดจำนวนประตูทางออกฉุกเฉินเหนือปีกจากสี่เหลือสองบาน เอ319 ที่มีการจัดเรียงที่นั่งแบบหนาแน่น เช่น การจัดเรียงที่นั่งชั้นประหยัด 156 ที่นั่งของอีซี่ย์เจ็ตจะยังคงมีประตูทางออกฉุกเฉินเหนือปีกสี่บานเช่นเดิม[9] ประตูบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ถูกแทนที่ด้วยประตูตู้สินค้าด้านท้าย ซึ่งสามารถบรรจุตู้สินค้า LD3-45 ที่ดัดแปลงความสูงลงแล้วได้[8] และยังมีการปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์เล็กน้อยให้เข้ากับลักษณะของเครื่องบินที่เปลี่ยนไป เอ319 จะมีตัวเลือกเครื่องยนต์ระหว่าง ซีเอฟเอ็ม56-5เอ หรือ ไอเออี วี2500-เอ5 ที่ให้แรงผลักดัน 98 kN (22,000 lbf)และตัวเลือกที่จะเพิ่มเป็น 105 kN (24,000 lbf) ได้[10]

เอ319 จะติดตั้งถังเชื้อเพลิงคล้ายกับบนเอ320-200 และด้วยความจุผู้โดยสารที่น้อยกว่า จึงมีพิสัยการบินถึง 6,650 km (3,590 nmi) หรือ 6,850 km (3,700 nmi) เมื่อติดตั้งปลายปีกแบบชาร์กเลต ความยาวปีกของเอ319 นั้นยาวกว่าความยาวของเครื่องบินโดยรวม

การผลิตและทดสอบ

แอร์บัสเริ่มการขายเอ319 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1992 โดยมีไอแอลเอฟซีเป็นลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้อไปทั้งหมดหกลำ[11] แอร์บัสได้มีการปรับราคาเป็น 275 ล้านเหรียญสหรัฐ (250 ล้านยูโร) ในวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1993 หลังมีรายงานถึงความต้องการสั่งซื้อเอ319 ของสวิสแอร์และอาลีตาเลีย[11][12] ในวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1995 เอ319 ลำแรกได้เข้ากระบวนการประกอบขั้นสุดท้ายในโรงงานที่ฮัมบาร์ค และได้เปิดตัวในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1995 และทำการบินครั้งแรกในวันถัดไป[13] กระบวนการทดสอบเพื่อรับใบอนุญาตใช้เครื่องบินสองลำกับอีก 350 เที่ยวบินทดสอบ โดยรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม56-5บี6/2 ได้รับการรับรองในเดือนเมษายน ค.ศ. 1996 และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์วี2524-เอ5 ได้รับการรับรองในอีกหนึ่งเดือนถัดมา[14]

สวิสแอร์ได้รับมอบแอร์บัส เอ319 ลำแรกในวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 1996 และเข้าประจำการภายในเดือนนั้น[14] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1997 แอร์บัส เอ319 ได้ทำลายสถิติขณะทำการบินเที่ยวบินส่งมอบ โดยได้ทำการบินในเส้นทางรอบวงกลมใหญ่จากฮัมบวร์คสู่วินนิเพก รัฐแมนิโทบาเป็นระยะทาง 3,588 ไมล์ทะเล (6,645 กิโลเมตร) ด้วยระยะเวลา 9 ชั่วโมง 5 นาที[14] แอร์บัส เอ319 hได้รับความนิยมในสายการบินราคาประหยัด เช่น อีซี่ย์เจ็ต ที่รับมอบไป 172 ลำ

แหล่งที่มา

WikiPedia: แอร์บัส เอ319 https://www.airbus.com/en/products-services/commer... https://www.airbus.com/newsroom/press-releases/en/... https://www.airbus.com/en/newsroom/press-releases/... http://www.airbus.com/newsevents/news-events-singl... http://www.airbus.com/aircraftfamilies/passengerai... http://www.airbus.com/aircraftfamilies/passengerai... http://www.airbus.com/content/dam/corporate-topics... http://www.airbus.com/fileadmin/media_gallery/file... http://www.airbus.com/presscentre/pressreleases/pr... http://www.airbus.com/aircraftfamilies/passengerai...